หมั้นไว้ก่อนพร้อมค่อยสมรส
บทความคดีอาญา
หมั้นไว้ก่อนพร้อมค่อยสมรส
การหมั้น หมายถึง การที่ชายหญิงทำสัญญาว่าจะสมรสกันและอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา
เงื่อนไขของการหมั้น
การหมั้นจะทำได้ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุ 17 ปี บริบูรณ์แล้ว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1435 วรรคหนึ่ง หากว่ามีการหมั้นโดยที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอายุยังไม่ครบ 17 ปี บริบูรณ์ การหมั้นที่ฝ่าฝืนนั้นเป็นโมฆะ ป.พ.พ. มาตรา 1435 วรรคสอง
คำพิพากษาฎีกาที่ 3072/2547 (ประชุมใหญ่) ในขณะที่นาย อ. ทำการหมั้นกับนางสาว บ. นั้น นางสาว บ. อายุยังไม่ครบ 17 ปี บริบูรณ์ โดยมีอายุเพียง 15 ปีเศษ การหมั้นดังกล่าวจึงฝ่าฝืนบทบัญญัติ ป.พ.พ.มาตรา 1435 วรรคหนึ่ง ย่อมตกเป็นโมฆะตามมารตรา 1435 วรรคสอง นอกจากนี้มาตรา 172 วรรคสอง บัญญัติว่า ถ้าจะต้องคืนทรัพย์สินอันเกิดจากโมฆะกรรม ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยลาภมิควรได้มาใช้บังคับ เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าโจทก์ทราบว่านางสาว บ.อายุไม่ครบ 17 ปี จำเลยและนางสาว บ.จึงต้องคืนของหมั้นและสินสอดให้แก่โจทก์ตามมาตรา 412 และ 413 โดยจะถือว่าโจทก์ชำระหนี้ตามอำเภอใจตามมาตรา 407 หาได้ไม่ ดังนั้น การที่โจทก์จำเลยซึ่งเป็นบิดาและมารดาของนาย อ.และนางสาว บ.ทำบันทึกข้อตกลงภายหลังที่นาย อ.กับนางสาว บ.เลิกการอยู่กินเป็นสามีภริยากัน ว่าจำเลยตกลงจะคืนเงินสินสอดและของหมั้นแก่โจทก์ จึงมีมูลหนี้และใช้บังคับได้ หาได้ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่
คำถามคือผู้เยาว์ทำการหมั้นได้หรือไม่
ผู้เยาว์ทำการหมั้นได้ แต่ต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1436 หากการหมั้นที่ผู้เยาว์ได้กระทำโดยปราศจากความยินยอมของบิดามารดาหรือผู้ปกครองนั้นย่อมตกเป็นโมฆียะ แต่ผู้เยาว์ยังสามารถบอกล้างหรือให้สัตยาบันได้เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว ตาม ป.พ.พ.มาตรา 177
แบบของสัญญาหมั้น การหมั้นจะสมบูรณ์ได้นั้น ฝ่ายชายจะต้องส่งมอบหรือโอนทรัพย์สินอันเป็นของหมั้นให้กับหญิง เพื่อเป็นหลักฐานว่าจะสมรสกับหญิง ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1437
คำพิพากษาฎีกาที่ 4905/2543 พฤติการณ์ที่จำเลยซื้อแหวนเรือนทองฝังเพชรมอบให้โจทก์ตลอดจนการจองสถานที่จัดงานพิธีสมรสและพิมพ์บัตรเชิญงานสมรสรวมทั้งการติดต่อผู้ใหญ่ให้มาเป็นเจ้าภาพในงานพิธีสมรส ล้วนส่อแสดงว่าจำเลยประสงค์จะสมรสกับโจทก์ การให้แหวนกันดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการหมั้นและเพื่อเป็นหลักฐานว่าจะมีการสมรสกันในเวลาต่อมาแม้การหมั้นจะมิได้จัดพิธีตามประเพณีหรือมีผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมาร่วมเป็นสักขีพยานก็เป็นการหมั้นโดยสมบูรณ์ตามกฎหมาย
หมายเหตุ โดยสรุปแล้วการหมั้นนั้นจะทำด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษรก็ได้ ข้อสำคัญคือจะต้องมีของหมั้นและต้องเป็นของซึ่งชายนำไปมอบให้แก่หญิง จึงจะถือว่าเป็นการหมั้นที่สมบูรณ์
ทนายเอกรินทร์ เขียนแก้ว โทร : 063-137-0262



